การเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ และความหมายของธุรกิจเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
การเสียภาษีธุรกิจเฉพาะของกิจการที่ดำเนินการเยี่ยงธนาคาร
1. ความหมายของกิจการที่ดำเนินการเยี่ยงธนาคาร
กิจการที่ดำเนินการเยี่ยงธนาคาร หมายถึง กิจการที่ให้บริการทางการเงินคล้ายกับธนาคารพาณิชย์ เช่น
การรับฝากเงินหรือเงินลงทุน
การให้สินเชื่อหรือปล่อยกู้
การรับจำนองหรือจำนำ
การให้บริการโอนเงิน
การให้บริการเช่าซื้อทางการเงิน
แม้ไม่ได้เป็นธนาคารพาณิชย์โดยตรง แต่หากดำเนินกิจการที่คล้ายคลึงก็ต้องเสีย ภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามที่กฎหมายกำหนด
2. อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ
กิจการที่ดำเนินการเยี่ยงธนาคารต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในอัตรา
3% ของรายรับที่เกิดจากธุรกรรมทางการเงิน
ต้องเสีย ภาษีท้องถิ่นอีก 10% ของภาษีธุรกิจเฉพาะที่ต้องจ่าย (รวมเป็น 3.3%)
ตัวอย่างการคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะ
หากกิจการมีรายรับจากดอกเบี้ยเงินกู้และค่าธรรมเนียม 10,000,000 บาท
ภาษีธุรกิจเฉพาะ = 10,000,000 × 3% = 300,000 บาท
ภาษีท้องถิ่น = 300,000 × 10% = 30,000 บาท
รวมต้องชำระ 330,000 บาท
3. กิจการที่อาจเข้าข่ายต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
บริษัทเงินทุน (Finance Companies)
สหกรณ์ออมทรัพย์ที่ให้สินเชื่อแก่บุคคลภายนอก
บริษัทปล่อยสินเชื่อ (Leasing, Hire-Purchase)
ผู้ให้บริการสินเชื่อระหว่างบุคคล (P2P Lending)
ผู้ให้บริการระบบการชำระเงินที่มีลักษณะคล้ายธนาคาร
ผู้ประกอบธุรกิจเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
หมายถึงบุคคลหรือนิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจที่มีลักษณะคล้ายธนาคารพาณิชย์ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นธนาคารโดยตรง แต่หากมีการให้บริการทางการเงินที่คล้ายคลึงก็อาจเข้าข่ายต้องปฏิบัติตามกฎหมายและเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. ธุรกิจที่เข้าข่ายเป็นผู้ประกอบธุรกิจเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
ธุรกิจที่มีลักษณะต่อไปนี้อาจถือว่าเป็น ผู้ประกอบธุรกิจเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
การรับฝากเงิน หรือเงินลงทุนจากประชาชน
การให้กู้ยืมเงิน หรือปล่อยสินเชื่อเป็นอาชีพ
การให้บริการเช่าซื้อ (Leasing) และสินเชื่อผ่อนชำระ (Hire Purchase)
การให้บริการสินเชื่อระหว่างบุคคล (P2P Lending)
บริษัทเงินทุนและหลักทรัพย์ ที่ให้สินเชื่อแก่บุคคลหรือนิติบุคคล
ธุรกิจให้กู้ยืมเงินแบบนาโนไฟแนนซ์ (Nano Finance) หรือไมโครไฟแนนซ์ (Micro Finance)
สหกรณ์ออมทรัพย์ ที่ให้สินเชื่อแก่บุคคลภายนอก
2. ภาษีที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบธุรกิจเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
ผู้ประกอบธุรกิจเหล่านี้ต้องเสีย ภาษีธุรกิจเฉพาะ (Specific Business Tax - SBT) แทนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) โดย
อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ = 3% ของรายรับจากดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และบริการทางการเงิน
ต้องเสีย ภาษีท้องถิ่นอีก 10% ของภาษีธุรกิจเฉพาะ (รวมเป็น 3.3%)
ตัวอย่างการคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะ
หากกิจการมีรายรับจากดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม 5,000,000 บาทภาษีธุรกิจเฉพาะ = 5,000,000 × 3% = 150,000 บาท
ภาษีท้องถิ่น = 150,000 × 10% = 15,000 บาท
รวมต้องชำระภาษี = 165,000 บาท
3. การยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ
ธุรกิจบางประเภทอาจได้รับการ ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ เช่น
ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (เช่น ธ.ก.ส., ธนาคารออมสิน)
การปล่อยกู้ระหว่างบริษัทในเครือเดียวกัน (Intercompany Loan)
บุคคลธรรมดาที่ให้กู้ยืมเงินโดยไม่ได้ทำเป็นธุรกิจปกติ
4. ข้อกฎหมายและการกำกับดูแล
ผู้ประกอบธุรกิจเยี่ยงธนาคารพาณิชย์อาจต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น
ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ในกรณีของธุรกิจสินเชื่อที่อยู่ภายใต้การกำกับ
กระทรวงการคลัง หากเป็นธุรกิจสินเชื่อเฉพาะทาง เช่น ไมโครไฟแนนซ์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำหรับธุรกิจหลักทรัพย์และการลงทุน
วิธีการยื่นขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะแบบออนไลน์
ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจอยู่ในข่ายที่ต้องจดภาษีธุรกิจเฉพาะดังที่กล่าวไปแล้ว สามารถยื่นแบบคำขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.01) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ที่ www.rd.go.th ซึ่งยื่นคำขอได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
โดยมีรายละเอียดขั้นตอน คือ เริ่มจากให้กรอกเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (13 หลัก) ซึ่งสำหรับผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจในนามบุคคลธรรมดา ให้ใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน และนิติบุคคลให้ใช้เลขทะเบียนนิติบุคคลที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าออกให้ ส่วนกรณีอื่นๆ ให้ใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (13 หลัก) ของกรมสรรพากร
จากนั้นยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยเอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นมีดังนี้
1.คำขอ ภ.ธ.01
2.สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ระบุชื่อ ที่อยู่ หรือหนังสือยินยอมให้ใช้อสังหาริมทรัพย์
3.หนังสือเดินทาง หรือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว
4.ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ (กรณีเป็นบุคคลต่างด้าว)
5.หนังสือการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญ กองทุน มูลนิธิ หน่วยงานหรือกิจการของเอกชนที่มิใช่นิติบุคคล
6.หนังสือตั้งตัวแทนรับรองโดยสถานทูตหรือสถานกงสุล
7.เอกสารการดำเนินกิจการร่วมค้า (ถ้ามี)
8.แผนที่ตั้งสถานประกอบการ พร้อมภาพถ่าย
9.หนังสือมอบอำนาจ (ติดอากรแสตมป์) พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ
และจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและอนุมัติต่อไป โดยเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร จนถึงแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ยื่นคำขอทราบภายใน 27 วันทำการ
ธุรกิจที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะลักษณะใดขอคืนภาษีได้
ทั้งนี้ การเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ผู้ประกอบการสามารถขอคืนภาษีในส่วนนี้ได้ หากเข้าเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดดังนี้
- ผู้ไม่มีหน้าที่เสียภาษีแต่ได้ชำระภาษีไว้
- และได้ชำระภาษีไว้เกิน ผู้ประกอบกิจการที่มีหน้าที่เสียภาษี หรือผิด หรือชำระซ้ำไว้
โดยผู้ประกอบการที่มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ มีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีได้ภายใน 3 ปี นับแต่วันพ้นกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษี และการยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีธุรกิจเฉพาะตามแบบ ค.10 จำเป็นต้องแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องไปพร้อมกับคำร้อง ได้แก่
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล กรณีผู้ขอคืนเป็นนิติบุคคล
- ใบเสร็จรับเงินภาษีธุรกิจเฉพาะ และหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ขอคืน